เราได้ไปสัมภาษณ์คุณพลอย ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของบริษัททัวร์ไทย “PKG JOURNEY LINE CO., LTD.” เพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์การเดินทางไปต่างประเทศล่าสุดของคนไทยในมุมมองของบริษัททัวร์

ช่วงเวลาการซื้อตั๋วเครื่องบินที่เคยเน้นจองล่วงหน้ากว่าครึ่งปี แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว!

PKG JOURNEY LINE CO., LTD. (ต่อไปนี้จะเรียกว่า PKG) เป็นบริษัททัวร์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 ในฐานะผู้ค้าส่ง (Wholesaler)
ในปี 2010 ได้เริ่มให้บริการทัวร์ส่วนตัวในญี่ปุ่น และในปี 2013 ได้กลายเป็นพันธมิตรกับ Toyota Rent a Car
ปัจจุบันบริษัทจำหน่ายแพ็คเกจทัวร์ต่างประเทศของตนเองและดำเนินงานเป็น Land Operator ในญี่ปุ่น
พื้นที่ให้บริการครอบคลุม ญี่ปุ่น, ยุโรป, ไต้หวัน, ออสเตรเลีย และจีน แต่จะเน้นให้บริการในญี่ปุ่นและยุโรปเป็นหลัก

บริษัท PKG ได้รับการยอมรับอย่างสูงโดยเฉพาะจากกลุ่มวัยรุ่นและครอบครัวชาวไทย และเป็นบริษัททัวร์ที่มีลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำเป็นจำนวนมาก เราได้ไปเยี่ยมคุณพลอย ซึ่งทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการที่ PKG รับผิดชอบในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทัวร์ญี่ปุ่นและพัฒนาคอนเทนต์สำหรับโรงแรมในญี่ปุ่นและ Toyota Rent a Car

เว็บไซต์: https://pkgjourney.co/

สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila (ต่อไปนี้จะเรียกว่า O.O.H. Pimpila)
สวัสดีครับ ปกติเราคุยกันทางออนไลน์ วันนี้ได้มาเจอตัวจริงแบบนี้ดีใจมากครับ

PKG JOURNEY LINE CO., LTD. คุณพลอย (ต่อไปนี้จะเรียกว่า คุณพลอย)
ดีใจเช่นกันค่ะ

สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila
คือตอนที่ผมอยู่เมืองไทย ผมชอบญี่ปุ่นมาก เลยไปงานอีเวนต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นอย่าง Japan Expo บ่อยๆ แล้วก็ได้แวะไปที่บูธของ PKG ทุกครั้งเลยครับ
เพราะว่าแผนการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นของที่นี่ดีกว่าที่อื่นมาก
ทัวร์กลุ่มของบริษัทอื่นมักจะมีภาพลักษณ์ที่อัดแน่นไปด้วยโปรแกรม เน้นแต่การเดินทางและดูยุ่งๆ แต่ทัวร์ของ PKG มีความสบายๆ เป็นโปรแกรมที่ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่

ตอนที่วางแผนเที่ยวกับครอบครัวของผมเอง ก็ได้รับคำปรึกษาอย่างใกล้ชิด และแผนการเดินทางก็ราบรื่นด้วยคำแนะนำจากทีมงานของ PKG ทำให้ครอบครัวของผมมีความทรงจำที่ดีกับการเดินทางครั้งนั้น ขอบคุณมากครับ
ผมยังเคยแนะนำ PKG ให้กับคนรู้จักที่กำลังวางแผนเที่ยวแบบส่วนตัวด้วยนะครับ

ว่าแต่ ช่วงนี้สถานการณ์การเดินทางของคนไทยเป็นอย่างไรบ้างครับ?

คุณพลอย
หมายถึงช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19 ใช่ไหมคะ
เพราะช่วงโควิด-19 ไปไหนไม่ได้เลย ทำให้ความต้องการเดินทางสูงขึ้นมาก
ที่เรียกกันว่า “เที่ยวล้างแค้น” (Revenge Travel) นั่นแหละค่ะ

สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila
แล้วตอนนี้มีที่ไหนแนะนำให้ไปเที่ยวบ้างครับ?

คุณพลอย
ถ้าเป็นไปได้ อยากแนะนำให้ไปเที่ยวต่างประเทศค่ะ
เพราะค่าครองชีพในไทยก็สูงขึ้น แค่เพิ่มงบอีกนิดหน่อยก็สามารถไปเที่ยวต่างประเทศได้แล้ว
อยากให้ทุกคนได้ไปเห็นด้วยตาตัวเอง ได้ฟัง ได้ลิ้มรส และค้นพบคุณค่าใหม่ๆ ในต่างแดนค่ะ

สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila
ผมเองก็มาอยู่ที่ญี่ปุ่น ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและค่านิยมใหม่ๆ เลยเข้าใจความรู้สึกนั้นดีเลยครับ!
จากที่ได้พูดคุยกับลูกค้า คิดว่าตอนนี้ประเทศไหนเป็นที่นิยมมากที่สุดครับ?

คุณพลอย
อันดับหนึ่งคือญี่ปุ่นค่ะ นอกจากนั้นก็รู้สึกว่าคนจะสนใจฮ่องกง จีน ไต้หวัน และเกาหลีใต้ค่ะ

สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila
ญี่ปุ่นยังคงเป็นที่นิยมอยู่นะครับ ไม่ใช่แค่จากข่าวหรือสื่อต่างๆ แต่คนรู้จักของผมก็พูดบ่อยๆ ว่าอยากไปญี่ปุ่น
ทำไมญี่ปุ่นถึงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับแรกสำหรับคนไทยครับ?

คุณพลอย
เพราะญี่ปุ่นมี 4 ฤดูที่ชัดเจน ซึ่งไม่มีในเมืองไทยค่ะ
โดยเฉพาะฤดูหนาวจะเป็นที่นิยมมาก คนไทยอยากจะหนีอากาศร้อนของไทยไปเพลิดเพลินกับความหนาวของญี่ปุ่นค่ะ

สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila
นั่นสินะครับ
แต่สำหรับผมที่เป็นคนไทยเหมือนกันแต่อยู่ที่ญี่ปุ่น ฤดูหนาวมันหนาวและทรมานมาก
รอให้ถึงฤดูใบไม้ผลิไม่ไหวเลยครับ (หัวเราะ)

ถึงแม้จะบอกว่าเป็นที่นิยม แต่เมื่อดูจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มาเยือนญี่ปุ่นแล้ว ดูเหมือนว่ายังน้อยกว่าช่วงก่อนโควิด-19 นะครับ
ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากหลายประเทศ เช่น ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เดินทางมาเยือนญี่ปุ่นมากกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ทำให้ตอนนี้ญี่ปุ่นคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ
แต่ทำไมคนไทยถึงยังมาน้อยอยู่ก็ไม่ทราบ…

คุณพลอย
อย่างนั้นเหรอคะ
ทำไมกันนะ….

จริงๆ แล้ว คำขอและข้อสงสัยจากลูกค้าทัวร์สำหรับประเทศญี่ปุ่นก็ยังน้อยกว่าช่วงก่อนโควิด-19 เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ นะคะ…

สาเหตุหลักน่าจะมาจากราคาตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นที่สูงขึ้น
แม้แต่สายการบินต้นทุนต่ำ (LCC) ก็ยังมีราคาสูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 มากค่ะ

ในปี 2019 ราคาอยู่ที่ประมาณ 30,000 ถึง 50,000 เยน แต่ปัจจุบัน (ปี 2024) ราคาอยู่ที่ 70,000 เยนขึ้นไปค่ะ

สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila
ผมก็รู้สึกได้เหมือนกันครับเพราะต้องกลับไทยบ้าง แต่ผมพอมีเวลาเลยคิดว่าจะใช้เที่ยวบินแบบต่อเครื่องแทน
แต่ว่าถ้าจองตั๋วล่วงหน้านานๆ จะไม่ได้ราคาถูกลงเหรอครับ?

คุณพลอย
เมื่อก่อนถูกลงค่ะ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่

อ๊ะ นึกออกแล้ว!
สิ่งที่เปลี่ยนไปจากช่วงก่อนโควิด-19 คือช่วงเวลาในการซื้อตั๋วเครื่องบินค่ะ!
กลุ่มคนอายุ 20-30 ปี ส่วนใหญ่จะจองล่วงหน้า 2 สัปดาห์ถึง 3 เดือน
ส่วนกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป จะจองล่วงหน้า 4 ถึง 6 เดือนค่ะ

เมื่อก่อนส่วนใหญ่จะจองล่วงหน้าเกินครึ่งปี การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ประหลาดใจมากค่ะ

สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila
อย่างนี้นี่เอง
อาจจะเพราะคนเริ่มคุ้นเคยกับการเดินทางมากขึ้น
ว่าแต่ พวกแคมเปญต่างๆ ของบริษัททัวร์หรือโปรโมชั่นลดราคาของสายการบินก็มีเยอะมากเลยไม่ใช่เหรอครับ? ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้างครับ? เป็นที่นิยมหรือเปล่า?

คุณพลอย
เป็นที่นิยมมากค่ะ
แคมเปญต่างๆ ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ดี
คนที่ใช้แคมเปญส่วนใหญ่จะซื้อแค่ตั๋วเครื่องบินไว้ก่อน
ณ จุดนั้น คนส่วนใหญ่ยังไม่มีแผนการเดินทางอื่นๆ เลยค่ะ
แน่นอนว่ามีข้อดีคือสามารถซื้อได้ในราคาถูกและคุ้มค่า

แต่ส่วนตัวคิดว่ามีข้อเสียอยู่เหมือนกันค่ะ
นั่นก็คือแม้จะซื้อได้ในราคาพิเศษ แต่ช่วงเวลาและระยะเวลาเดินทางมีจำกัด
ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ยอมจ่ายแพงกว่าเล็กน้อยเพื่อให้ได้เดินทางในช่วงเวลาที่ต้องการค่ะ

ดังนั้น เวลาที่มีคนโทรมาปรึกษาเรื่องช่วงเวลาของทัวร์

ดิฉันก็จะแนะนำว่า “ใช้เงินแก้ปัญหาเถอะค่ะ อยากไปเที่ยวเมื่อไหร่ ก็ไปเลย” (หัวเราะ)

สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila
จริงด้วยนะครับ! แล้วระยะเวลาเดินทางของแคมเปญหรือตั๋วลดราคาเที่ยวญี่ปุ่นสั้นลงด้วยหรือเปล่าครับ?

คุณพลอย
เท่าที่ตรวจสอบล่าสุด ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 5-6 วันค่ะ
เมื่อก่อนจะอยู่ที่ 7-8 วัน ก็สั้นลงประมาณ 1-2 วันค่ะ
และเราพยายามไม่ให้ราคาขายทัวร์สูงเกินไป แต่ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 7 วัน 6 คืน ราคา 70,000 บาท (ประมาณ 300,000 เยน) ค่ะ
ช่วงก่อนโควิด-19 สำหรับ 8-9 วัน (7-8 คืน) ราคาอยู่ที่ 55,000-60,000 บาท ดังนั้นถึงแม้เงินเยนจะอ่อนค่าลง แต่ราคาก็สูงขึ้นประมาณ 25%
นี่เป็นเพราะราคาตั๋วเครื่องบินและค่าที่พักที่สูงขึ้นค่ะ

สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila
เข้าใจแล้วครับ! แต่ถ้าระยะเวลาสั้นลง อัตราการกลับมาเที่ยวซ้ำอาจจะเพิ่มขึ้นก็ได้นะครับ
ตอนนี้มีประเด็นเรื่องที่พักบางแห่งราคาพุ่งสูงจนแม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็เข้าพักได้ยาก ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันมาก
แล้วลูกค้าชาวไทยว่าอย่างไรบ้างครับ?

คุณพลอย
ก็มีบ้างที่บอกว่าแพงเกินไป แต่ส่วนใหญ่จะหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาก่อนแล้ว และมักจะเข้าใจสถานการณ์ดีค่ะ

สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila
ก็มีคนที่บอกว่าแพงอยู่สินะครับ มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นอีกไหมครับ?

คุณพลอย
ลูกค้าทัวร์กลุ่ม (แบบจอยกรุ๊ป) ลดลง และมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ
ทัวร์ส่วนตัวมักจะเป็นครอบครัว 3 รุ่นมาด้วยกัน 7-8 คน
นอกจากนี้ ลูกค้าที่จองรถบัสทางไกลด้วยตัวเองก็เพิ่มขึ้น
คิดว่าในอนาคต ทัวร์ที่ใช้รถบัสเหมาลำสำหรับกรุ๊ป (แบบจอยกรุ๊ป) จะลดลงอีกค่ะ

สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila
หมายความว่าแนวโน้มการท่องเที่ยวแบบส่วนตัวและแบบ FIT (Free Independent Traveler) กำลังเพิ่มขึ้นสินะครับ

ในตอนต่อไป เราจะมาสอบถามเกี่ยวกับความสนใจของคนไทยในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นกันต่อ โปรดติดตามครับ (อ่านต่อตอนจบ)・・・・

---

＜ความรู้สึกจากคุณ Pimpila สถาบันวิจัยการตลาดไทย＞