งาน FIT Fair จัดขึ้นอีกครั้งในปีนี้ที่ฮอลล์ชั้น 5 สยามพารากอน ซึ่งเป็นใจกลางกรุงเทพฯ ประเทศไทย
ผมจึงได้จัดตารางการเดินทางไปทำธุรกิจที่ประเทศไทยในช่วงนี้พอดี และได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมงาน รวมถึงได้เข้าไปช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ ในบางบูธด้วยครับ
ความรู้สึกแรกคือ บรรยากาศคึกคักและกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายเกินกว่าที่คาดไว้มากครับ!

ก่อนอื่นเลย บรรยากาศและความคึกคักของศูนย์การค้า “สยามพารากอน” ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานนั้นสุดยอดมากครับ!
สยามพารากอนใหญ่โตมากจริงๆ ขนาดผมเองยังหลงทางอยู่หลายครั้งจนหาทางออกไม่เจอ
สถานที่จัดงาน FIT Fair อยู่ที่ชั้น 5 แต่ที่นี่มีชั้นใต้ดินด้วย คือ ชั้น B (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ), ชั้น G (ฟู้ดคอร์ท), และชั้น M (ชั้นหลักที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS) แล้วถึงจะเริ่มนับเป็นชั้น 1 ทำให้ทั้งหมดมีถึง 8 ชั้นเลยทีเดียว
ที่ชั้น 2 มีการจัดแสดงและจำหน่ายรถยนต์สุดหรูอย่าง Rolls-Royce และ Maserati ด้วยครับ



วันแรกของงาน FIT Fair เป็นวันศุกร์ซึ่งเป็นวันธรรมดา แต่สยามพารากอนก็ยังคึกคักมาก แม้จะเลยบ่ายสองโมงไปแล้ว ฟู้ดคอร์ทขนาดใหญ่ก็ยังเต็มทุกที่นั่งเลยครับ!
และแน่นอนว่างาน FIT Fair ครั้งที่ 16 ซึ่งจัดขึ้นที่สยามพารากอนแห่งนี้ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 8 ถึงวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2024 ก็ได้รับความสำเร็จอย่างล้นหลามครับ
งาน FIT Fair นี้เป็นงานที่ JNTO (องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น) จัดขึ้นสำหรับผู้บริโภคชาวไทยทั่วไป เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น โดยมีสมาคมการท่องเที่ยว, หน่วยงานท้องถิ่น และบริษัทต่างๆ จากญี่ปุ่นมาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ส่วนบริษัททัวร์และสายการบินของไทยจะมาจัดโปรโมชั่นจำหน่ายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวครับ
นอกจากนี้ยังมีการจัดเจรจาธุรกิจระหว่างองค์กรและบริษัทจากญี่ปุ่นกับบริษัททัวร์ของไทยอีกด้วย
หลังจากสถานการณ์โควิด-19 จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่ไปเยือนญี่ปุ่นยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับชาติอื่นๆ ทำให้ผมเคยคิดว่า “คนไทยอาจจะเลิกสนใจญี่ปุ่นไปแล้วหรือเปล่า?” หรือ “เศรษฐกิจไทยไม่ดีหรือ?” แต่จากที่ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองในครั้งนี้ ผมรู้สึกว่าไม่เป็นเช่นนั้นเลยครับ
ความสนใจยังมีอยู่สูงมาก! ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าหลายคนเป็นนักท่องเที่ยวที่ไปซ้ำ (Repeater) ผมได้ยินเขาพูดคุยกันว่า “ฉันเคยไปที่นั่นที่นี่มาแล้ว” หรือ “เดือนหน้าจะไปมัตสึโมโตะกับทาคายามะ” นอกจากนี้ ยังได้เห็นชายหนุ่มชาวไทยใส่เสื้อยืดลาย “โรกุมอนเซ็น” ของซานาดะ ยูคิมูระ มาเยี่ยมชมบูธของเมืองอุเอดะ จังหวัดนากาโนะด้วย ทำให้รู้สึกว่าการท่องเที่ยวมีความหลากหลายมากขึ้น



↑ บูธของเมืองอุเอดะ จังหวัดนากาโนะ ที่คึกคักไปด้วยชาวไทยจำนวนมาก
ผมได้รับคำถามมากมาย เช่น “อุเอดะอยู่ที่ไหน?” หรือ “ดอกซากุระที่สวนสาธารณะปราสาทอุเอดะบานเมื่อไหร่?”
มีชาวไทยที่ใส่เสื้อยืดลาย “โรกุมอนเซ็น” ของซานาดะ ยูคิมูระ มาเยี่ยมชมด้วยครับ
ก่อนช่วงโควิด-19 เส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยม (Golden Route) และหิมะจะเป็นที่สนใจหลัก แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผู้คนให้ความสนใจในพื้นที่ที่หลากหลายมากขึ้น
แน่นอนว่าช่วงเวลานี้ที่เมืองไทยเป็นฤดูร้อน! ไม่สิ เป็นฤดูร้อนตลอดทั้งปี!
ชาวไทยชื่นชอบฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่นมากครับ ก่อนโควิด-19 ฤดูหนาว (หิมะ) จะเป็นที่นิยมอย่างล้นหลาม แต่ตอนนี้ใบไม้เปลี่ยนสีก็ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝันเช่นกัน รูปแบบการเดินทางแบบ FIT (การท่องเที่ยวด้วยตนเอง) กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ นะครับ
เนื่องจากการท่องเที่ยวด้วยตนเองเป็นหลัก สินค้าที่ขายดีที่สุดจึงเป็นตั๋วเดินทางประเภทต่างๆ ครับ
ดูเหมือนว่าแคมเปญของสายการบิน, บัตรโดยสารสำหรับขนส่งสาธารณะต่างๆ และรถเช่า จะเป็นที่นิยมมาก
แต่ละบูธมีคนต่อคิวยาวเหยียดเลยครับ
กลุ่มลูกค้าที่เห็นได้ชัดคือ คู่สามีภรรยาวัย 50-60 ปี และครอบครัว ซึ่งมากันเยอะมากครับ
โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกๆ อยู่ในวัยนักเรียนมัธยมปลายหรือมหาวิทยาลัยก็มีมากเช่นกัน การที่ลูกๆ โตแล้วก็ยังมาเที่ยวกับครอบครัวแบบนี้ ดูแล้วน่ารักและกตัญญูจังเลยนะครับ
ส่วนตัวแล้วก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อยครับ
ผู้เขียน: ฮิเดโทโมะ ทาคาฮาชิ


จากนี้ไป เป็นความรู้สึกของคุณพิมพิรา เจ้าหน้าที่ชาวไทยของเรา หลังจากที่ได้พูดคุยกับคนไทยในงานจริงๆ ค่ะ
สวัสดีค่าทุกคน
ดีใจมากเลยค่ะที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนไทยหลายๆ ท่านในงาน FIT Fair!
โดยเฉพาะคนที่ยังไม่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่า “ยังกังวลนิดหน่อย อาจจะต้องพึ่งบริษัททัวร์” แต่หลายคนก็บอกว่า พอได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่บูธของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แล้ว ความกังวลก็ลดลงไปบ้าง
มีหลายคนที่บอกว่า “อยากไปเที่ยวหลายๆ ที่!” แต่พอได้คุยจริงๆ ก็รู้สึกว่า “ทริปสั้นๆ คงไปทั้งหมดไม่ไหว ต้องตัดสินใจเลือกสถานที่แล้วล่ะ” การได้ฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่โดยตรง ทำให้เห็นภาพการเดินทางและวางแผนได้ง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ
ในบรรดาคนเหล่านี้ มีบางคนที่ตัดสินใจว่า “อยากจะลองเที่ยวด้วยตัวเอง ไม่ไปกับทัวร์แล้ว!” และดูเหมือนว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่วางแผนจะไปเที่ยวแบบสบายๆ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า แทนที่จะเป็นฤดูหนาวปีนี้ค่ะ
ดังนั้น พิมเลยได้ให้คำแนะนำกับคนที่กำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นไปว่า “ลองมาหาข้อมูลโดยตรงจากคนในพื้นที่ดูนะคะ! รับรองว่าจะได้ไอเดียดีๆ กลับไปแน่นอนค่ะ”
นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไปญี่ปุ่นซ้ำ (Repeater) ด้วยค่ะ
ต้องบอกเลยว่า กลุ่ม Repeater นี่สุดยอดมากๆ เลยค่ะ!
พวกเขากระตือรือร้นที่จะค้นหาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ใหม่ๆ ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก นอกเหนือจากที่ที่เคยไปมาแล้ว สิ่งที่สัมผัสได้คือ ความต้องการที่ชัดเจนที่จะไปเยือนสถานที่ที่คนอื่นยังไม่เคยไป แม้จะอยู่ในจังหวัดที่เคยไปมาแล้วก็ตาม
อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในการจองตั๋วเครื่องบิน ส่วนใหญ่จะเดินทางเป็นครอบครัว แต่ก็สามารถจัดตารางเวลาและซื้อตั๋วในราคาที่สมเหตุสมผลได้เก่งมากค่ะ
ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่ม Repeater บางคนยังมาปรึกษาแผนการเดินทางกับเจ้าหน้าที่ชาวไทย ทำให้รู้สึกว่าพวกเขาใช้บูธต่างๆ เหมือนเป็น “เคาน์เตอร์ให้คำปรึกษาด้านการวางแผนเที่ยว” เลยค่ะ วิธีนี้เป็นที่นิยมในกลุ่ม Repeater ชาวไทยอย่างมาก หลายคนรู้สึกว่าการได้ปรึกษาแบบตัวต่อตัวเป็นประโยชน์มาก การได้วางแผนไปพร้อมๆ กับการพูดคุยโดยตรง น่าจะทำให้พวกเขาสบายใจและสนุกกับการเดินทางได้มากขึ้น
ผู้เขียน: สถาบันวิจัยการตลาดไทย
พิมพิรา
งานท่องเที่ยวครั้งใหญ่ครั้งต่อไปในไทยคืองานอะไร?
คืองาน TITF (Thai International Travel Fair: งานเที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 16 มกราคม (พฤหัสบดี) – 19 มกราคม (อาทิตย์) 2025 ครับ
นี่คือวิดีโอแนะนำดอกซากุระที่สวนสาธารณะปราสาทอุเอดะ ที่ฉายบนจอดิจิทัลไซเนจที่สถานีรถไฟฟ้า BTS สยาม ซึ่งเชื่อมต่อโดยตรงกับสยามพารากอน เพื่อโปรโมทงาน FIT Fair ครับ
