
Pantip (พันทิป) เป็นสื่อเว็ปไซต์ท้องถิ่นที่เปรียบเสมือนสื่อประจำชาติของไทย ซึ่งขาดไม่ได้เลยในการทำการตลาดและโปรโมชั่นสำหรับคนไทย
ดังนั้น ในวันที่ 24 เมษายน 2024 คุณพิมพิลา จากบริษัท OOH จึงได้เดินทางไปเยี่ยมเยือนสำนักงานใหญ่ของ Pantip เพื่อสัมภาษณ์เกี่ยวกับเทรนด์และแนวโน้มการท่องเที่ยวของคนไทยหลังยุคโควิด!
เราได้ไปรับฟังเสียงตอบรับล่าสุดมาโดยตรง
รายละเอียดเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ในไทยโดยใช้ Pantip…

เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยสิ้นสุดลงแล้ว การนัดพบเจอกันจึงเกิดขึ้นได้จริง ดิฉันรอคอยวันนี้มานานค่ะ
ครั้งนี้เราได้พบกับคุณขวัญและคุณแบงค์จากทีมบรรณาธิการและนักเขียนของ Pantip ค่ะ
สำนักงานใหญ่ของ Pantip ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี BTS สะพานควายในกรุงเทพฯ ที่นี่มีพนักงานหนุ่มสาวจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศสดใสและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

ขวา: คุณพิมพิลา (จากบริษัทของเรา)

ขวา: คุณพิมพิลา (จากบริษัทของเรา)
คนไทยกำลังมองหา ‘สถานที่ลับที่นักท่องเที่ยวยังไม่รู้จัก’ และ ‘สถานที่ที่คนญี่ปุ่นนิยมไป ไม่ใช่ที่สำหรับชาวต่างชาติ’
สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila:
สวัสดีค่ะ!
วันนี้ขอบคุณมากนะคะ ขออนุญาตเริ่มเลยนะคะ ไม่ทราบว่าได้รับผลกระทบจากช่วงโควิด-19 บ้างไหมคะ
Pantip คุณขวัญ:
ได้รับผลกระทบอย่างมากเลยค่ะ โดยเฉพาะคอนเทนต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวใน Pantip อย่างห้อง ‘Blue Planet’ ได้รับผลกระทบหนักมาก
เฉพาะ Blue Planet อย่างเดียว ยอดวิว (PV) ต่อปีลดลงถึง 100 ล้านครั้งจากปี 2019 เหลือเพียง 23 ล้านครั้งต่อปีค่ะ
ไม่ใช่แค่ยอดวิวเท่านั้น แต่เมื่อเทียบกับปี 2019 จำนวนคนที่โพสต์หัวข้อรีวิวต่างๆ ก็ลดลงอย่างมาก และเรื่องการท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงกัน
แต่ในทางกลับกัน คอนเทนต์เกี่ยวกับสุขภาพและการแพทย์อย่างห้อง ‘สวนลุมพินี’ กลับคึกคักและได้รับความนิยมมากขึ้นค่ะ

สำหรับผู้ที่ต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและทำการตลาดสำหรับคนไทย
แนะนำประเด็นสำคัญในการดึงดูดลูกค้าชาวไทยและการตลาดสำหรับคนไทย
สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila:
แล้วสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้างคะ
Pantip คุณขวัญ:
หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ยอดวิวก็ค่อยๆ ดีขึ้นค่ะ
ในปี 2023 ห้อง Blue Planet มียอดวิวถึง 133.49 ล้านครั้งต่อปี ซึ่งเกือบจะเท่ากับช่วงก่อนโควิดในปี 2019 ค่ะ
ที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ ยอดวิวของ Blue Planet ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 เป็นต้นมา และมีแนวโน้มที่จะแซงหน้าปี 2019 ไปมากเลยทีเดียวค่ะ
ใน Blue Planet ไม่เพียงแต่มีข้อมูลการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ แต่ยังมีรีวิว (ความรู้สึกและประสบการณ์) จากผู้ใช้งานด้วย ซึ่งทั้งการโพสต์รีวิวและการค้นหาใน Blue Planet ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากค่ะ
ในบรรดาหัวข้อทั้งหมด การท่องเที่ยวญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
มีการค้นหาเกี่ยวกับการเที่ยวญี่ปุ่นเฉลี่ยเดือนละ 500,000 ครั้ง
ในขณะที่การค้นหาเกี่ยวกับเกาหลีใต้ซึ่งเป็นที่นิยมของคนไทยเช่นกัน มีประมาณ 200,000 ครั้งค่ะ
จะเห็นได้ว่าการค้นหาเกี่ยวกับญี่ปุ่นนั้นมีจำนวนมากกว่ามาก เหตุผลหนึ่งที่การค้นหาเกี่ยวกับเกาหลียังน้อยอยู่ อาจเป็นเพราะการไปเที่ยวเกาหลีมักจะเน้นไปที่การตามรอยสถานที่ถ่ายทำต่างๆ ซึ่งไม่มีความหลากหลายเท่ากับการเที่ยวญี่ปุ่น
ดังนั้น ความนิยมของคอนเทนต์จึงมีความผันผวนสูงค่ะ
Pantip คุณแบงค์:
นอกจากนี้ เมื่อเราเจาะลึกลงไปในเนื้อหาของรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นใน Blue Planet ก็จะเห็นลักษณะเฉพาะบางอย่างครับ
เมื่อดูเนื้อหาที่โพสต์ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา จะเห็นได้ว่าคนไทยกำลังมองหา ‘สถานที่ลับที่นักท่องเที่ยวยังไม่รู้จัก’ และ ‘สถานที่ที่คนญี่ปุ่นนิยมไป ไม่ใช่ที่สำหรับชาวต่างชาติ’ ครับ
เหตุผลก็คือ ปัจจุบันนี้คนไทยจำนวนมากยังคงนึกถึงญี่ปุ่นเป็นอันดับแรกเมื่อต้องการเดินทางไปต่างประเทศ
ดังนั้นจึงมีคนไทยจำนวนมากที่เคยไปญี่ปุ่นมาแล้วหลายครั้ง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงอยากไปสถานที่ใหม่ๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก ไม่ใช่แค่การช้อปปิ้งหรือสวนสนุกเท่านั้น
พวกเขาต้องการสัมผัสประสบการณ์การเที่ยวญี่ปุ่นเหมือนคนญี่ปุ่นครับ
ควรไปที่ไหนดี?
จะเดินทางไปที่นั่นได้อย่างไร?
หรืออยากลองทานอาหารที่คนท้องถิ่นบอกว่าอร่อย
สำหรับคนไทยแล้ว การได้ไปเยือนสถานที่จริง ได้ฟังด้วยหูของตัวเอง ได้เห็นด้วยตาของตัวเอง และได้ลิ้มรสด้วยปากของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก นอกจากนี้ การถ่ายภาพและวิดีโอเพื่อบันทึกประสบการณ์และสถานที่เหล่านั้น แล้วแชร์ผ่านโซเชียลมีเดียกับเพื่อนและคนรู้จัก ก็กลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งครับ
สำหรับคนไทยแล้ว สื่อ (การแชร์ผ่านโซเชียล) ก็เป็นหนึ่งในความสนุกที่สำคัญของการเดินทางครับ
พฤติกรรมและจิตวิทยาของผู้ใช้งานชาวไทยเปลี่ยนไป
สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila:
มีแนวโน้มของผู้ใช้งานเปลี่ยนแปลงไปบ้างไหมคะ
Pantip คุณแบงค์:
สไตล์การโพสต์บทความใน Blue Planet เปลี่ยนไปครับ
เมื่อก่อน ผู้ใช้งานจะโพสต์รีวิวเหมือนไดอารี่บันทึกความทรงจำของตัวเอง
ในรีวิวนั้นจะเขียนเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ได้เจอมา พร้อมทั้งบอกเล่ารายละเอียดของสถานที่และความรู้สึกอย่างละเอียด ผู้อ่านส่วนใหญ่ไม่สนใจความยาวของกระทู้ บางคนชอบอ่านกระทู้ยาวๆ ด้วยซ้ำ
นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้สึกเหมือนได้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน
แต่เหตุผลก็คือ พวกเขายังไม่มีแผนจะเดินทางในเร็วๆ นี้ครับ
แต่ในปัจจุบัน จำนวนผู้อ่านที่มีแผนจะเดินทางในเร็วๆ นี้เพิ่มขึ้น พวกเขาจึงเลื่อนดูหน้าจอเร็วขึ้น
นั่นเป็นเพราะพวกเขากำลังมองหาข้อมูลที่มากขึ้น
ดังนั้น เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คน เราจะเริ่มจากการแสดงรูปภาพที่น่าสนใจก่อน เมื่อผู้อ่านเห็นรูปภาพนั้นก็จะหยุดเลื่อนดู แล้วก็จะตรวจสอบว่ารูปภาพนั้นคืออะไร เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้ว ก็จะไปยังขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนต่อไปคือการค้นหาใน Pantip หรือ Google Search ครับ
เราคำนึงถึงพฤติกรรมและจิตวิทยาของผู้ใช้งานเหล่านี้ในการเขียนและแก้ไขบทความ
รูปภาพและภาพประกอบที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดสายตาผู้อ่าน เมื่อพวกเขาหยุดดูแล้ว ก็จะเจอข้อมูลที่กระชับและเข้าใจง่าย นอกจากนี้ เรายังเลือกใช้คำและเรียบเรียงประโยคเพื่อให้ผู้อ่านค้นหาเจอได้ง่ายและอ่านสนุกจนถึงบรรทัดสุดท้าย ด้วยวิธีนี้ เราให้ความสำคัญกับการที่ผู้ใช้งานจะพึงพอใจแม้จะใช้เวลาอ่านกระทู้ไม่นานครับ
ต้องขอบคุณสถาบันวิจัยการตลาดไทยที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวจะคอยให้ข้อมูลเบื้องหลังอย่างละเอียดในมุมมองของคนไทยกับเราเสมอ ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์บทความที่ดียิ่งขึ้นได้ครับ
สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila:
ขอบคุณค่ะ ว่าแต่ คนไทยชอบใช้โซเชียลมีเดียกันมากเลยนะคะ ไม่ทราบว่ามีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างคะ

สำหรับผู้ที่ต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและทำการตลาดสำหรับคนไทย
แนะนำประเด็นสำคัญในการดึงดูดลูกค้าชาวไทยและการตลาดสำหรับคนไทย
Pantip คุณแบงค์:
คนไทยส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับ Facebook, Instagram และ TikTok มากที่สุดครับ แน่นอนว่าเราเองก็ใช้โซเชียลมีเดียเช่นกัน
ลักษณะเด่นของโซเชียลมีเดียคือเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นความเร็วจึงเป็นสิ่งสำคัญครับ
ผู้ใช้งานที่กำลังจะออกเดินทางจริงๆ มักจะมองหาข้อมูลการท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ ดังนั้นแนวโน้มที่พวกเขาจะค้นหาข้อมูลจาก Google Search และกลับมาอ่านรีวิวหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ซ้ำๆ ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงครับ
ด้วยเหตุนี้ สุดท้ายแล้วผมคิดว่าการให้รีวิวและข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานจึงมีความสำคัญมากกว่าโซเชียลมีเดียครับ
สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila:
เวลาค้นหาใน Google ก็มักจะเจอบทความของ Pantip ติดอันดับต้นๆ บ่อยๆ เลยนะคะ
Pantip คุณแบงค์:
ใช่ครับ! ดูเหมือนว่า Google Organic จะ ‘ติด’ Pantip นะครับ (หัวเราะ)
ผู้ใช้งานที่เข้ามาจาก Google และช่องทางอื่นๆ จะใช้เวลาอ่านกระทู้หนึ่งๆ โดยเฉลี่ยประมาณ 1 นาทีครึ่งถึง 2 นาทีครึ่งครับ
จริงๆ แล้วเมื่อก่อนเคยนานกว่า 3 นาที แต่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานที่ไม่ค่อยมีเวลามากขึ้น เราจึงเน้นทำคอนเทนต์ที่เข้าใจง่ายและทำให้พวกเขากลับมาอ่านซ้ำได้
ดูเหมือนว่าความพยายามเหล่านี้จะทำให้ Google Organic ‘ติด’ Pantip ไปแล้วล่ะครับ (หัวเราะ)
สถาบันวิจัยการตลาดไทย Pimpila:
วันนี้ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ นะคะ
หลังจากนี้ก็ขอฝากประเทศญี่ปุ่นด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ!!
ตัวอย่างการใช้ Pantip

【ตัวอย่าง Advertorial บน Pantip】
Advertorial ของ ห้างสรรพสินค้า Shinsaibashi PARCO
เป็นคอนเทนต์ที่นำเสนอความสนุกสำหรับครอบครัว 3 รุ่น สามารถดูได้ที่นี่

【ตัวอย่าง Advertorial บน Pantip】
Advertorial ของ สมาคมการท่องเที่ยวเมืองฟูจิซาวะ จังหวัดคานางาวะ
เป็นคอนเทนต์ที่แนะนำการเดินทางไปเช้าเย็นกลับจากโตเกียวเพื่อเที่ยวเอโนชิมะ สามารถดูได้ที่นี่
ตัวอย่างการใช้ Pantip อื่นๆ
Pantip (พันทิป) เป็นเว็บบอร์ดขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศไทย มีลักษณะพิเศษคือ ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือสูง เพราะการโพสต์บทความจำเป็นต้องใช้บัตรประชาชนในการยืนยันตัวตน
บริษัทของเรา (OOH Co., Ltd.) เป็นตัวแทนโฆษณาและโปรโมชั่นอย่างเป็นทางการของ Pantip
ที่บริษัทของเรา เรามีทีมงานชาวไทยและผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดที่คุ้นเคยกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งจะร่วมกันหารือเพื่อดึงดูดเสน่ห์ของแต่ละพื้นที่และนำเสนอในรูปแบบที่คนไทยเข้าใจได้ง่าย

สำหรับผู้ที่ต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและทำการตลาดสำหรับคนไทย
แนะนำประเด็นสำคัญในการดึงดูดลูกค้าชาวไทยและการตลาดสำหรับคนไทย
นอกจากนี้ บริษัทของเรายังนำเสนอโซลูชันการตลาดขาเข้าที่ดีที่สุดมาเป็นเวลากว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี 2004
ปรึกษาฟรี
โปรดติดต่อเราได้ตลอดเวลา
(ช่องทางการติดต่อ)
สถาบันวิจัยการตลาดไทย โดย OOH Co., Ltd.
✉ ติดต่อสอบถาม
☎ 03-6276-5080
